กรุงเทพมหานครรื้อถอนมาตรฐาน ‘ภาษีที่ดินเกษตร’ เก็บ 0.15% สั่งสอน ‘แลนด์ลอร์ด’ เสแสร้งปลูกกล้วย มะนาว
ศูนย์ข่าวจากศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กรุงเทพมหานคร) กล่าวมาว่า เดี๋ยวนี้ กรุงเทพมหานครจัดเก็บรายได้จากภาษีที่ดินและก็สิ่งก่อสร้าง ซึ่งปีนี้เป็นปีแรกเก็บอัตรา 100% โดยรวมอยู่ที่ 9,500 ล้านบาท ยังไม่ถึงแผนการที่ประมาณไว้ 14,000 ล้านบาท แต่ คาดอีก 2 เดือนที่เหลือ เป็นส.ค.ถึงกันคุณยายน จะจบปีงบประมาณ 2565 จะสามารถจัดเก็บได้ตามเป้า ปัจจุบัน ได้ทำหนังสือเตือนให้ประชากรมาจ่ายภาษีแล้ว ข้างหลังหนังสือแจ้งไปรอบแรกถูกคืนกลับมาอยู่มากพอควร รวมทั้งคนที่ยังไม่มาจ่ายด้านในวันที่ 31 เดือนกรกฎาคมตามที่มีการกำหนดด้วย
“กรุงเทพมหานครจะนำปัญหาด้านการจัดเก็บภาษีที่ดินในปีนี้ ไปเปลี่ยนแปลงสำหรับจัดเก็บในปี 2566 ซึ่งกำลังตรวจสอบข้อมูลให้ครอบคลุมได้ 100% ดังเช่น คนไม่มาจ่ายหรือหนังสือถูกคืนกลับ จะใช้แอพพลิเคชั่นเข้ามาช่วย เพื่อกระทำการแจ้งเตือนคนที่จะต้องจ่ายภาษีให้รู้ล่วงหน้า” ที่มาของข่าวกล่าว

– ปรึกษาหารือและขอคำแนะนำ “คลังเก็บของ” ออกข้อปฏิบัติรื้อถอนมาตรฐานภาษี
ที่มาของข่าวกล่าวอีกว่า ในทางคู่ขนานเพื่อการจัดเก็บภาษีที่ดินมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ปัจจุบัน กรุงเทพมหานครทำหนังสือปรึกษาหารือสศค. (สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง) กระทรวงการคลัง ถึงในกรณีที่ กรุงเทพมหานครจะออกข้อบังคับกรุงเทพฯ เพื่อปรับอัตราการจัดเก็บภาษีที่ดิน ในส่วนของที่ดินชนิดทำการเกษตรให้พอๆกับเพดานที่ข้อบังคับระบุ 0.15% จากปัจจุบันนี้จัดเก็บในอัตรา 0.01-0.1% ก็เลยทำให้แลนด์ลอร์ดที่มีที่ดินไม่กลางเมืองแพงสูง ซึ่งตามผังเมืองรวมระบุเป็นโซนสีแดงพาณิชยกรรม รวมทั้งยังมิได้ใช้ประโยชน์ นำออกมาปรับปรุงทำการเกษตร เพื่อเข้ามาตรฐานที่ดินทำการเกษตร เป็นต้นว่า ปลูกกล้วย มะม่วง มะนาว เพื่อลดภาระหน้าที่ด้านภาษีที่ดิน เหตุเพราะถ้าหากเป็นที่ดินรกร้างว่างเปล่าควรต้องเสียภาษีอากรที่ดินในอัตรา 0.3-0.7% ซึ่งตอนนี้ กรุงเทพมหานครมีที่ดินไม่กว่า 1.2 แสนแปลง รวมทั้งมีการเอามาเปลี่ยนแปลงการใช้ผลดีที่ดินเป็นทำการเกษตรกันมากมายตอนก่อนหน้าที่ผ่านมา

– ดัดนิสัย “แลนด์ลอร์ด” ปรับปรุงผิดที่ถูกทาง
“เป็นแผนการท่านผู้ว่าฯชัชชาติ สิทธิชนิด ให้นำแปลนเมืองมาดูว่าได้แก่การใช้ผลดีที่ดินถูกไหม พวกเราเลยมีแนวความคิดจะปรับอัตราภาษีใหม่ เพื่อเจ้าของที่ใช้ประโยชน์ที่ดินให้เหมาะสมถูกทางจริงๆโดยนำร่องที่ดินจำพวกทำการเกษตรก่อน ถ้าหากทำเป็นจะมีผลให้ กรุงเทพมหานครจัดเก็บรายได้ได้มากขึ้น แม้มีความแน่ชัดจากกระทรวงการคลังว่า กรุงเทพมหานครสามารถทำเป็นมากน้อยแค่ไหนแล้ว จะขอที่ประชุม กรุงเทพมหานครออกข้อบังคับระบุอัตราภาษีที่ดินใหม่ถัดไป ยังไม่เคยทราบว่าจะทันในปี 2566 นี้ไหม เพราะว่าเหลือช่วงเวลาเพียงแค่ 2 เดือนแค่นั้น” ที่มาของข่าวกล่าว

– ได้เวฟภาษีให้ที่ดิน “ทำสวนสาธารณะ”
ศูนย์ข่าวกล่าวอีกว่า สำหรับแนวทาง “สวน 15 นาที ทั่วกรุง” ที่ผู้ว่าฯชัชชาติมีแนวความคิดให้เอกชนหรือเจ้าของที่ที่มิได้ใช้ประโยชน์จากที่ดินร่วมกับ กรุงเทพมหานครทำเป็นสวนสาธารณะ โดยจะได้รับการยกเว้นการเก็บภาษีที่ดินนั้น ปัจจุบัน ให้ตั้งคณะกรรมการกำหนดเกณฑ์เพื่อตรึกตรอง อาทิเช่น ช่วงเวลาแนวทางการทำบันทึกกติกา (MOU) สำหรับการใช้ที่ดินได้กี่ปี เพื่อกำเนิดความคุ้มราคาในการพัฒนา เพราะเหตุว่าถ้าหาก กรุงเทพมหานครเว้นภาษีที่ดินให้เอกชนหรือเจ้าของที่จะมีผลให้เสียรายได้ไปเช่นเดียวกัน ก็เลยจะต้องพินิจอย่างละเอียด
“จะรีบสรุปหลักเกณฑ์ในส.ค.นี้ เพื่อทันใช้ในปีงบประมาณ 2566 หนทางพื้นฐานต้องกำหนดว่าพื้นที่โซนไหนจะเป็นสวนสาธารณะ ใช้ช่วงเวลากี่ปี ใช้ที่ดินกี่ไร่ แล้วก็ กรุงเทพมหานครจำเป็นต้องใช้งบประมาณเยอะแค่ไหน เพราะว่าที่ดินที่รับมาจะมีค่าใช้จ่าย อาทิเช่น รักษาความปลอดภัย ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า
โดยบางทีอาจจะไม่จำเป็นต้องใช้ที่ดินทั้งสิ้นที่เอกชนหรือเจ้าของที่ที่เอามาร่วมแผนการ อาทิเช่น ที่ดิน 10 ไร่ บางครั้งอาจจะใช้เพียงแค่ 2 ไร่ เพื่อ กรุงเทพมหานครจะได้เก็บภาษีที่ดินในพื้นที่เหลือ 8 ไร่ได้ ฯลฯ ปัจจุบัน รู้ดีว่ามีเอกชนนำที่ดินแกนกลางเมืองและก็ชานเมืองมาเสนอ กรุงเทพมหานครมากยิ่งกว่า 10 ที่ ได้แก่ เขตวัฒนา บัววัน บางรัก ตลิ่งชัน ทวีวัฒนา” ศูนย์ข่าวกล่าว